
มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน นับถือศาสนาอะไร มีสีผิวอะไร เพศอะไร ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคไม่ต่างกัน
วันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี นอกจากเป็นวันสำคัญของประเทศไทยคือวันรัฐธรรมนูญแล้ว ในทางสากลยังถือเป็นวันสำคัญสำหรับประชาคมโลก คือ “วันสิทธิมนุษยชนสากล” หรือ Human Rights Day ถูกกำหนดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1948 (พ.ศ. 2491) โดยในช่วงเวลานั้น สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ส่งผลกระทบด้านลบทั้งกายและใจแก่เหล่ามวลมนุษยชาติ ความรุนแรงและการสูญเสียได้ก่อให้เกิดเป็นพลังครั้งใหญ่ ทำให้หลายประเทศได้ตระหนัก และได้เล็งเห็นถึงความสำคัญถึงคุณค่าของความเป็นมนุษย์ จึงนำไปสู่การจัดตั้งองค์การสหประชาชาติขึ้น เพื่อเป็นตัวกลางในการคุ้มครองดูแลมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้
ในเวลาต่อมา สหประชาชาติได้มีมติรับรองปฏิญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (The Universal Declaration of Human Rights) ในวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 (พ.ศ. 2491) และได้มีมติประกาศให้วันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนสากล (Human Rights Day) นับเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของโลกที่จัดตั้งขึ้น เพื่อให้มนุษยชาติได้ตระหนักถึงผลกระทบของความเลวร้ายที่เกิดจากการละเมิดสิทธิซึ่งกันและกัน

ปฏิญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (The Universal Declaration of Human Rights)
มีมติรองรับโดยสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (United Nations General Assembly) เพื่อเป็นหลักการสำคัญในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน มีทั้งหมด 30 ข้อ เช่น
- มนุษย์ทั้งหลายเกิดมาอิสระเสรีและเท่าเทียมกันทั้งศักดิ์ศรีและสิทธิ
- บุคคลมีสิทธิในการดำรงชีวิต และมีชีวิตอยู่อย่างมีเสรีภาพและปลอดภัย
- บุคคลมีสิทธิได้รับการศึกษา
- บุคคลมีสิทธิได้รับความมั่นคงทางสังคม
- บุคคลต้องเคารพและไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

เนื่องในวันสิทธิมนุษยชนสากล ประจำปี 2565 มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ตระหนักถึงสิทธิที่มนุษย์ทุกคนพึงมีและได้รับ ทางมูลนิธิเด็กโสสะฯได้ส่งเสริมการตระหนักรู้ถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็กแต่ละคนในการดูแล ผ่านกลไกการอบรมเรื่องสิทธิเด็กและทบทวนอย่างสม่ำเสมอ ตามการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวัย นอกจากนี้ยังผลักดันให้เด็กและเยาวชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมเกี่ยวกับสิทธิเด็ก เช่น แกนนำเยาวชนจากหมู่บ้านเด็กโสสะบางปู ได้ทำงานร่วมกับเด็กและเยาวชนในชุมชนของเทศบาลบางปู ในการรณรงค์ให้เกิดการตระหนักรู้เกี่ยวกับสิทธิเด็กและการคุ้มครองเด็ก, เยาวชนจากหมู่บ้านเด็กโสสะเชียงราย ร่วมกิจกรรมเสียงของเด็กและเยาวชนเพื่อเข้าใจเรื่องสิทธิเด็กและการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก ความรุนแรง และการรายงานแจ้งเหตุและช่องการขอความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ทางมูลนิธิเด็กโสสะฯ ขอให้ผู้ใหญ่ทุกคนร่วมกันสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญของชาติ ได้เติบโตอย่างมีศักดิ์ศรีและมีภูมิคุ้มกันสามารถพัฒนาตนได้เต็มศักยภาพในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคตและมีส่วนร่วมสร้างวัฒนธรรมแห่งการเคารพสิทธิมนุษยชนให้เกิดขึ้นในสังคมต่อไป
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนสิทธิเด็กให้กับเด็กในครอบครัวโสสะ ได้ที่ เว็บไซต์ https://www.sosthailand.org/donate-now และชมคลิป #เติมรักที่ขาดด้วยครอบครัวทดแทน ได้ที่ https://bit.ly/3T3c5D5